Android

***ในตัวนี้เป็นบทความ hands-on จากต่างประเทศนะครับ เพราะตัวเครื่องยังไม่มีเข้ามาในไทย ในปีนี้คาดว่ามือถือที่ใช้ชิปประมวลผลตัวแรงอย่าง NVIDIA Tegra 3 ที่มีคอร์ประมวลผล 4 คอร์จะเปิดตัวออกมาพร้อมวางจำหน่ายอีกหลายรุ่นเลยทีเดียว อย่างในข่าวนี้ก็เป็นตาของต้นแบบเครื่องจาก Fujitsu ที่คาดว่าจะวางจำหน่ายในอเมริกาเหนือ, ยุโรปและในจีนในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ โดยรูปร่างภายนอกที่เห็นได้ชัดก็คือปุ่มตรงหน้าจอที่ลดลงเหลือแค่ 3 ปุ่ม ตามความตั้งใจของ Google ที่ออกแบบ Ice Cream Sandwich แล้วตัดปุ่ม Search ออกไป ซึ่งตัวปุ่มจะมีทั้งแบบปุ่มจริงและปุ่มแบบ soft-button แบบใน Galaxy Nexus (ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความรำคาญบ้างในบางคน) จอมาในขนาด 4.6 นิ้ว พร้อมกล้องหลังความละเอียดสูงถึง 13.1 MP พร้อมแฟลชรองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียด Full HD ในตัวเครื่องยังมีฟีเจอร์ที่แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในประสบการณ์ของผู้ใช้ด้วย เช่น Realtime Speech Slow-Down ที่ช่วยเพิ่มช่องว่างระหว่างคำ/ประโยคในการสนทนาเพื่อให้ฟังง่ายยิ่งขึ้น รวมไปถึงฟีเจอร์ที่ช่วยปรับระดับเสียงให้เข้ากับอายุของผู้ใช้งานเครื่องให้โดยอัตโนมัติด้วย ส่ว

จากข่าวเก่าที่มีข้อมูลของ  Samsung Galaxy S III  ออกมาทาง BGR ก็ได้ช้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Galaxy S III เพิ่มเติมว่า จะมากับตัวประมวลผล Exynos 4412 เเบบ 4 เเกนความเร็ว 1.5 GHz หน้าจอขนาด 4.8 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 อัตราส่วน 16 : 9 (อัตราส่วนเดียวกันกับ Galaxy Nexus) ส่วนความละเอียดกล้องนั้นเหมือนเดิมคือกล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล เเละกล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล ข้อมูลของสเปคครั้งนี้มาหลังจากที่ Samsung ได้ประกาศโมดูลเซนเซอร์กล้องรุ่นใหม่ในรหัส S5K3H7 โดยมีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล บันทึกวีดีโอความละเอียด 1080p ได้ มี Back-side Illumination ช่วยให้ถ่ายภาพในที่เเสงน้อยได้ดีขึ้น รวมไปถึง zero shutter lag ที่ชัตเตอร์เเล้วสามารถจับภาพได้ทันที โดยรวมๆ เเล้วเป็นฟีเจอร์กล้องที่ใกล้เคียงกับ iPhone 4S เลยทีเดียว

เริ่มได้เห็นชิป SoC จากค่าย ST-Ericsson ไปบ้างแล้วในปีกับรุ่น NovaThor U8500 ที่ใช้ในสมาร์ทโฟนรุ่กลางๆ ของตลาดอย่าง Samsung Galaxy S Advance และ Sony Xperia P ล่าสุด ST-Ericsson ได้เปิดตัวชิปรุ่นใหม่อีกรุ่นในรหัส NovaThor L8540 ซึ่งประกอบไปด้วยซีพียู Cortex-A9 แบบดูอัลคอร์ความเร็วสูงสุดที่ 1.85 GHz พร้อมกับชิปกราฟิก PowerVR SGX 544 สัญญาณนาฬิกา 500 MHz (ตัวเดียวกับที่ใช้ใน TI OMAP5) แรม LPDDR2 แบบดูอัลแชนแนล โดยผลิตด้วยสถาปัตยกรรมแบบใหม่ในขนาด 28 นาโนเมตร และชิปรุ่นนี้รองรับการถ่ายวิดีโอ 1080p ที่ 60 เฟรมต่อวินาทีเอาไว้ด้วย นอกจากนี้ยังรวมชิป LTE (4G) ความเร็วสูงสุด 100 Mbps เอาไว้ในตัว SoC ด้วย และของมาตรฐานอย่าง Wi-Fi, Bluetooth, FM Radio, NFC และ GPS ไว้ด้วย ตัวอย่างชิปจะเริ่มส่งไปให้กับผู้ผลิตในช่วงไตรมาสสามของปีนี้ ส่วนตัวเครื่องที่ใช้ชิปนี้จริงๆ น่าจะออกราวต้นปีหน้า ตามหลังชิปอีกรุ่นอย่าง NovaThor U8520

ถ้าจะมองกันถึงแท็บเล็ตที่ใช้ Android นั้น มีการแบ่งซอยรุ่นออกไปมากมายจนเริ่มยากที่จะเลือกมากขึ้นทุกวัน ทำให้ดูเหมือนว่าจะขายได้มาก แต่เอาเข้าจริงๆ ยอดขายยังคงน้อยกว่า iPad จาก Apple อยู่มากๆ โดยแท็บเล็ต Android เท่าที่ผ่านมาในช่วง 2 ปีนั้น สามารถจำหน่ายออกไปได้ราวๆ 12 ล้านเครื่อง ผิดกับ iPad ที่มียอดจำหน่ายรวมกันทั้งหมดแล้วกว่า 50 ล้านเครื่องด้วยกัน ทำให้ทาง Andy Rubin จาก Google ต้องออกมาแสดงความเห็นในเรื่องนี้กันบ้าง ซึ่ง Andy Rubin นั้นก็ประกาศออกมาเลยว่าในปีนี้ จะเป็นปีที่ Google จะจัดเต็มกับฝั่งแท็บเล็ตของ Android บ้าง เนื่องด้วยความที่อยากดันให้แท็บเล็ต Android มีชัยเหนือคู่แข่งตัวโตอย่าง iPad ซึ่งประเด็นหลักๆเลยที่ทำให้แท็บเล็ต Android ยังไม่โตมากเท่าที่ควรก็คือแอพที่ถูกสร้างมาใช้งานบนแท็บเล็ต โดยจะว่าไปเอาจริงๆ แล้วมันยังขาดแอพที่สามารถทำงานได้ดีบนจอที่ใหญ่และความละเอียดมากกว่าสมาร์ทโฟนทั่วๆไป ผิดกับทาง iPad ที่มีแอพสำหรับแท็บเล็ตของตนที่มากกว่า และสวยงาม ดึงดูดตาผู้ใช้ได้มากกว่า จึงทำให้คนหันหน้าออกจากแท็บเล็ต Android และยอมจ่ายเงินมากกว่าเพื่อซื้อ iPad แทน ดังนั้นดูแล้วปี

ทุกวันนี้เวลาจะเลือกซื้อมือถือ Android แต่ละที แต่ละคนก็จะมานั่งดูข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องสเปกเป็นหลัก แต่ที่จริงแล้วยังมีอีกเรื่องที่มีผลต่อประสิทธิภาพของการทำงานค่อนข้างมาก แต่หลายๆคนมองข้ามไป นั่นคือ microSD ที่ใช้เป็นแหล่งเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ของเครื่องนั่นเอง โดยที่จริงแล้วตัวของ microSD มีผลที่อาจไปลดประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมลงได้เฉลี่ย 100% – 300% เลยทีเดียว แถมยังมีบางกรณีที่ลดประสิทธิภาพลงไปกว่า 2,000% กันเลย ทำให้เห็นได้ชัดว่ามันกลายเป็นตัวถ่วงความแรงของเครื่องไป การทดสอบนั้นไม่ได้ทำเฉพาะกับโปรเเกรมทดสอบเท่านั้น เเต่รวมไปถึงการใช้งานในชีวิตประจำวันทั่วไป เช่น การเล่นเว็บ โหลดอีเมล์ การเล่นเกมส์ รวมไปถึง Social Network ต่างๆ อย่าง Facebook หรือ Google+ ผลของการทดสอบจากเคสตั้งอย่างนั้น พบว่าความเร็วในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตอย่าง Wi-Fi หรือ 3G นั้นสามารถรองรับการใช้งานของเเอพลิเคชันต่างๆ ได้ในปัจจุบัน เเม้กระทั่งตัวประมวลผล Single Core หรือ Dual Core ก็สามารถใช้รองรับการใช้งานได้ดีอยู่ เเต่เเบนด์วิธของ NAND Flash นั้นเป็นส่วนที่มีความเร็วน้อยที่สุด เเถมเพราะความเร็วของ NAND Fla

งานนี้ HTC คงหาทางออกสำหรับปัญหาตั้งชื่อรุ่นแล้วคนซื้องงไปได้เปราะนึงแล้ว หลังจากที่สมาร์ทโฟนรุ่นท็อปที่กำลังจะเปิดตัวอย่างเจ้า  HTC Endeavor ที่ตอนแรกมีชื่อว่า  HTC EDGE นั้น (แถมยังบอกว่าตอนขายจะเป็น HTC Supreme อีก) ได้ถูกเปลี่ยนชื่ออีกครั้งนึงแล้ว ชื่อใหม่ที่ว่าของเจ้า HTC Endeavor ถูกย่อลงมาเป็นเพียง HTC One X และจะเป็นมาตรฐานของการตั้งชื่อสมาร์ทโฟน HTC ในปีนี้แล้ว ส่วนอีกตัวที่ออกมาก่อนหน้าอย่าง  HTC Ville ก็ถูกเปลี่ยนชื่อเช่นกัน โดยคาดว่าจะถูกใช้ชื่อว่า HTC One S แทนนั่นเอง … ทีนี้การจำชื่อรุ่นของ HTC ก็คงง่ายลงบ้างแล้วล่ะนะ

จากที่ Samsung Galaxy S II อาจจะได้ ICS ภายในวันที่ 1 มีนาคมเเน่ เเน่นอนว่าตัวที่ได้ใกล้ๆ กันอย่าง Galaxy Note ก็คงออกมาในเร็วๆ นี้ เเต่วันนี้ก็มีตัวรอมทดสอบของ Galaxy Note ที่เป็น Ice Cream Sandwich ออกมาให้ดูกันเเล้ว ถึงเเม้ว่าเป็นรอมทดสอบ เเต่ก็ถือว่าสมบูรณ์ค่อนข้างมากโดยมีความเร็วในการใช้งานที่ใช้ในชีวิตประจำวันได้เลย รวมไปถึงใช้ S Pen ที่ติดมากับ Galaxy Note ได้อีกด้วย เเต่เสียอย่างเดียวตรงที่ไม่สนับสนุน Google Account นั้นคือไม่สามารถใช้งาน Android Market เเละบริการต่างๆ ของ Google ได้ ส่วนหน้าตา TouchWiz นั้นเเทบไม่เปลี่ยนเเปลงอะไรมากนอกจากที่เป็นตัวเเกนหลักของ ICS อย่างมัลติทาสก์หรือปุุ่มต่างๆ ที่ติดมากับตัว OS นอกนั้นเเทบไม่เเตกต่างกับ ToucWiz บน Gingerbread เลย ใครที่สนใจลองรอมใหม่ตัวนี้สามารถโหลดได้ที่  xda-developers  ครับ ส่วนตัวเเล้วผิดหวังกับ TouchWiz บน ICS เพราะนึกว่าจะมีการเปลี่ยนเเปลงหน้าตาให้ดีขึ้นเหมือนกับของ HTC  ฝั่งนั้นเค้าขยันปรับปรุงหน้าตาให้ดีขึ้นจริงๆ นะ : )

หลังจากข่าวลือว่า  HTC ปรับการตั้งชื่อรุ่นให้จำง่าย  โดยเจ้ารุ่นท็อปอย่าง HTC Endeavor ถูกเปลี่ยนเป็น HTC One X และ HTC Ville ถูกเปลี่ยนเป็น One S ล่าสุดมีรายละเอียดของชื่อต่างๆ พร้อมรุ่นอื่นที่เตรียมโดนเปลี่ยนชื่อไปด้วยแล้ว รุ่นต่อมาที่เปลี่ยนชื่อก็คือ HTC Primo ที่ยังไม่มีรูปตัวจริงออกมา โดยสเปคตัวนี้จะอยู่ในระดับกลางไปล่าง แต่มาพร้อมกับ Beats Audio และชื่อใหม่ของเจ้ารุ่นนี้คือ HTC One V สเปคที่ว่ากลางๆ ก็ดังนี้จ้า ซีพียูความเร็ว 1 GHz แบบดูอัลคอร์ หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 3.7 นิ้ว ความละเอียด 800 x 480 พิกเซล (WVGA) แรม 512 MB กล้องขนาด 5 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอได้ 720p ตัวเครื่องบางเพียง 9 มม. ต่อมาคือเจ้ารุ่นที่เคยมีชื่อว่า HTC Vortex หรือ HTC Quattro ซึ่งคาดการณ์กันว่าเป็นแท็บเล็ต จะถูกเปลี่ยนชื่อเป็น HTC One XL สเปคแรงพอตัวทีเดียว ดังนี้ ซีพียู Tegra 3 ความเร็ว 1.5 GHz ควอดคอร์ หน้าจอขนาด 10.1 นิ้ว ความละเอียด 1280 x 768 (แปลกๆ นะ) แรม 1 GB พื้นที่ภายใน 16 GB กล้องหลัง 2 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 1.3 ล้านพิกเซล จากชื่อรุ่นที่ปรากฏมาทั้งหมดมี HTC One S, One X,

แม้ว่าจะยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่หลายคนก็เริ่มคุ้นชื่อกับเจ้า HTC Endeavor (ที่จะโดนเปลี่ยนชื่อเป็น HTC One X) ล่าสุดทีมพัฒนาของ MoDaCo ได้ออกมาเผยข้อมูลที่บอกว่าวงในสุดๆ ซึ่งน่าจะทำให้หลายคนหันมาสนใจเจ้ารุ่นนี้เชียวนะ วงใน๊วงในที่ว่าอย่างแรกก็คือ HTC One X จะไม่มีปุ่มเมนูแบบสัมผัส อย่างที่ได้เห็นรูปกันมาก่อนหน้านี้ แต่จะเป็นปุ่มบนหน้าจอแบบเดียวกับ Galaxy Nexus แทน (หน้าตาควรจะประมาณนี้) ตามมาด้วย LED Notification ที่จะมีสองสีคือสีอำพัน และสีเขียว ส่วนเชื่อมต่อกับด็อกกิ้ง ใช้ซิมการ์ดแบบ microSIM ลำโพงคู่แบบสเตอริโอ ซึ่งใช้สำหรับอัดเสียงระหว่างวิดีโอได้ด้วย หน้าจอ Super LCD รองรับ FM และสุดท้ายแบตเตอรี่ขนาด 1,800 mAh ตัวเครื่องหนากว่า 10 มม. นิดหน่อย โดยเจ้า HTC One X จะมาพร้อมกับ Android 4.0.3 ซึ่งจะได้อัพเดทเป็น 4.0.5 ภายหลัง (ยังไม่ออกเลยเฮ้ย!) คนที่รออยู่ 26 มีนานี้เจอกันแน่จ้า

Samsung ประเทศไทยยังไม่หยุดความแรง แม้ว่าเดือนที่แล้วจะเปิดตัวแท็บเล็ตบางเบา แรงอย่าง Galaxy Tab 7.7 ไป แต่เมื่อวานก็ได้เปิดตัวเพิ่มอีกหลายรุ่นตั้งแต่ล่าง-กลางดังนี้ เริ่มจากตัวเบาๆ ก่อนกับ Galaxy S Wi-Fi 3.6 น้องเล็กสำหรับคนที่อยากได้เครื่องเล่นมัลติมีเดียหน้าจอกระทัดรัด 3.6 นิ้ว ส่วนสเปคคร่าวๆ มีดังนี้ ซีพียูความเร็ว 1 GHz แบบซิงเกิลคอร์ หน้าจอสัมผัส 3.6 นิ้ว ความละเอียด 480 x 320 พิกเซล (HVGA) รันระบบปฏิบัติการ Android 2.3 Gingebread พื้นที่ความจุภายใน 8 GB กล้องหลัง 2 ล้านพิกเซล กล้องหน้า VGA สิทธิพิเศษในการโหลดเพลงฟรีจาก GMM Grammy เป็นเวลาสองเดือน เปิดราคา 4,900 บาท พร้อมขายกลางเดือนมีนาคมนี้ รุ่นต่อมาก็ยังเป็นรุ่นคุ้มราคากับเจ้า Galaxy Y Duos สมาร์ทโฟนสองซิม ที่รองรับ 3G ด้วยนะ (900/2100 MHz) สเปคก็ใกล้เคียงกับ Galaxy Y ดังนี้ ซีพียูความเร็ว 832 GHz แบบซิงเกิลคอร์ หน้าจอขนาด 3.2 นิ้ว ความละเอียด 480 x 320 พิกเซล (HVGA) รันระบบปฏิบัติการ Android 2.3 Gingerbread กล้องหลังความละเอียด 3 ล้านพิกเซล ราคาอยู่ที่ประมาณ 5,900 – 6,900 บาท ยังไม่เคาะเวลาขาย รุ่น

หลังจากที่มีการควบรวมกิจการระหว่าง Sony กับ Sony Ericsson ทำให้เเบรนด์มือถือของ Sony Ericsson นั้นตกไปอยู่ภายใต้ Sony อย่างเป็นทางการ เเต่สมาร์ทโฟนคาบลูกคาบดอกที่อยู่ในช่วง “ดีลควบรวมกิจการ” อย่าง Xperia S นั้นที่ถูกพัฒนามาตั้งเเต่ปีที่เเล้ว จะใช้ชื่อเเบรนด์ของฝั่งไหนก็ยังเป็นปริศนาอยูู่ เเต่ปริศนาทุกอย่างก็ไขกระจ่างเป็นที่เรียบร้อยเพราะมีรูปกล้องจอง Xperia S ออกมาเเล้ว ใช้โลโก้ของ “Sony” เเบบเต็มๆ เลยจ้า กล่องสวยกันไหมเอ่ย

ก่อนหน้านี้ Lenovo ได้เปิดตัว สมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ใช้ชิปประมวลผลในตระกูล Atom รหัส Medfield ของ Intel อย่าง Lenovo K800  มาแล้ว ค่ายมือถืออีกค่ายอย่าง Motorola ก็รีบเปิดตัวเครื่องแรกในฝั่งของตนทันควัน โดยในขั้นต้นนี้มีแต่การเปิดตัวรูปเรนเดอร์ของตัวเครื่องออกมาเท่านั้น พร้อมรายละเอียดอีกนิดหน่อย ส่วนเรื่องที่สำคัญอย่างชื่อรุ่นนั้นยังไม่มีการเปิดเผยออกมาแต่อย่างใด โดยสิ่งที่แน่นอนที่สุดนอกเหนือจากชิปประมวลผลที่ใช้ Intel Atom รหัส Medfield แล้ว ก็คือตัว OS ที่แน่นอนว่าจะต้องใช้ Android 4.0 (Ice Cream Sandwich) มาในตัว และมาพร้อมกับอินเตอร์เฟสอย่าง MotoBlur ซึ่งในภาพที่ออกมาดูเหมือนว่าจะเป็น MotoBlur รุ่นใหม่อีกด้วย ส่วนการเปิดตัวจริงๆนั้น มีหลายกระแสคาดกันว่าน่าจะได้เห็นกันในงาน MWC 2012 ที่จะจัดขึ้นปลายเดือนนี้ที่บาร์เซโลนา ประเทศสเปนครับ

ตั้งแต่ที่ Apple เปิดตัว Siri เป็นต้นมา เราก็ได้เห็นแอพสั่งการด้วยเสียงที่พาเหรดกันมาโชว์ตัวความเป็นคู่แข่งกับ Siri อย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่มีตัวไหนที่เข้าตาจริงๆ เสียที ล่าสุดนาย Brandall แห่ง XDA Developer ได้พัฒนาแอพสำหรับการสั่งงานด้วยเสียงชื่อ Utter! ที่สามารถถามคำถามง่ายๆ อย่างข้อมูลการเดินทาง สภาพอากาศ เปิดแอพในเครื่องได้  แต่ถ้าหากถามคำถามที่ในเครื่องไม่มีแอพเฉพาะทางอยู่ มันก็จะเสริชในเว็บไซต์แทน แบบนั้นยังธรรมดาไป เพราะว่าในช่วงท้ายของวิดีโอ นาย Brandall ได้ สาธิตสิ่งที่เหนือกว่า Siri อย่างชัดเจนเช่นการตั้งค่าโปรไฟล์ซีพียู รีบูทเครื่องไปที่โหมดบูทโหลดเดอร์ (ออกจะกี๊กไปซักนิด) ส่งข้อความ ส่งอีเมล หรือโพสต์สเตตัสลงบน Facebook ก็ยังไหว เจ้า Utter! ยังคุยกับเราได้อีกด้วย ช่วงนึงของวิดีโอ Brandon ถามถึงหนังเรื่อง Lion King ซึ่งถูกเจ้า Utter! ตอบกลับมาว่า “อายุปาไป 35 แล้วทำไมยังดูหนังเด็กๆ อีก” โดยข้อมูลอายุที่ว่านั้น Utter! ดึงออกมาจาก Facebook และ Google Profile นั่นเอง (เริ่มน่ากลัว – แอดมิน) ไฮไลท์หนึ่งของวิดีโอนี้คือเมื่อถามไปว่า “ คิดอย่างไรกับ Siri บน iOS ” ผลคือ

หลายคนอาจได้เห็นหน้ามัลติทาสก์แบบใหม่ของ Android 4.0 Ice Cream Sandwich กันไปแล้ว (มีมาตั้งแต่สมัย 3.0) และอาจจะยังไม่ถูกใจเพราะว่ามันแค่โชว์ช็อตคัทไปหาแอพฯ ที่เคยใช้มาแล้วเท่านั้นเอง ใครที่คิดแบบนั้นอยู่ อาจต้องลองดูเจ้านี่ครับ เจ้านี่ที่ว่าคือ Cornerstone หรือการปรับแต่งหน้าจอของอุปกรณ์ Android ให้สามารถใช้งานพื้นที่ในหน้าจอได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยการแบ่งหน้าจอเป็นสามส่วน (กลาง – 1, ขวาบน – 2, ขวาล่าง – 3) ซึ่งไม่ได้แค่โชว์หน้าต่างแอพเฉยๆ แต่สามารถใช้งานได้จริงเลย ถ้าไม่ได้ใช้ก็สามารถปิดเก็บไปไว้ข้างจอได้ด้วย โดยกดที่ปุ่ม x ด้านล่าง สำหรับใครที่ชอบแนวคิดนี้ ต้องบอกก่อนว่า Cornerstone กำลังถูกรวมเข้าไปในรอมโมชื่อดังอย่าง CyanogenMod 9 แต่อาจจะเป็นรุ่นแท็บเล็ตเท่านั้น สุดท้ายนี้ทีมพัฒนาบอกว่า Cornerstone นั้นยังไม่เสร็จดี เพราะยังไม่แน่ใจว่าสามารถรวมเข้าไปกับระบบโดยที่ไม่มีปัญหากับการใช้งานแอพอื่นๆ ได้หรือไม่ ถ้าใช้งานได้ดีเราคงได้เห็นกันเร็วๆ นี้

หนึ่งในรุ่นที่ไม่ได้สเปคล้ำมากมาย แต่มีคนสนใจพอสมควรอย่างเจ้า Galaxy mini จะมีทายาทแล้ว หลังจากที่มีภาพของรุ่นต่อไปของ Galaxy mini ในรหัส GT-S6500 “Jena” หน้าตาของเจ้า Galaxy mini 2 ไม่ได้ต่างจากรุ่นเดิมนัก แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปชัดเจนที่สุดก็คือหน้าจอ ที่อัพไปเป็นขนาด 3.3 นิ้ว ความละเอียดก็เพิ่มขึ้นเป็น 480 x 320 พิกเซล (HVGA) และเพิ่มพื้นที่ภายในเป็น 3 GB ส่วนภายในอย่างซีพียู การรองรับ 3G และกล้องใกล้เคียงกับของเดิมมาก แถมยังแปะป้ายว่าจะมาในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้ด้วยนะ เจ้ารุ่นนี้อาจจะเปิดตัวใน MWC 2012 ปลายเดือนนี้ก็ได้ ใครกำลังรอสมาร์ทโฟนที่ใช้งานได้คุ้มค่าตัว ต้องรอดูครับ

ข่าวดีแบบชัดๆ ของชาว Galaxy S II มาแล้ว หลังจากที่นาย Eldar Murtazin แห่งเว็บไซต์ Mobile-Review ที่ช่วงหลังมีหลุดข่าวของ Samsung มาเป็นระยะๆ ได้มาคอนเฟิร์มวันที่ Galaxy S II จะได้อัพเดท Ice Cream Sandwich แล้วจ้า Eldar ทวีตออกมาว่า Galaxy S II จะได้อัพเดท Ice Cream Sandwich ในวันที่ 1 มีนาคมนี้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละเครือข่าย และประเทศด้วย โดยการอัพเดททำผ่านซอฟต์แวร์ประจำเครื่อง Samsung อย่าง Kies นั่นเอง สำหรับใครที่ถือ Galaxy S II อยู่ก็ขอยินดีด้วยครับ ส่วนรุ่นอื่นก็ลุ้นกันต่อไปนะ 

ด้วยความที่ Nokia ไม่ยอมทำสมาร์ทโฟนที่รัน Android ได้เสียที แฟนๆ จึงจับเอาสมาร์ทโฟนของแบรนด์นี้มาพอร์ทลง Android บ่อยๆ ถ้าใครจำได้ MeeGo ตัวแรกอย่าง nokia N900 ก็เคยถูกกระทำชำเรามาก่อน และทีนี้ก็ถึงคิวของ Nokia N9 แล้ว การพอร์ต Android มาลงบน Nokia N9 ครั้งนี้เป็นฝีมือของ Alexey Roslyakov แห่งทีม NITDroid ซึ่งเป็นทีมเดียวกับที่พอร์ทมาลง Nokia N900 นั่นเอง แถมพอร์ทมาทั้งที ก็พอร์ท Android รุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Ice Cream Sadnwich มาเชียวนะ สำหรับใครที่สนใจจะเอาไปลงบ้าง ต้องแสดงความเสียใจด้วย เพราะทีมนี้ยังไม่ได้ปล่อยเครื่องมือสำหรับลง Android บน Nokia N9 ออกมาเลย รวมถึงใครที่อยากรู้ว่ามันดูอัลบูทระหว่าง Android กับ MeeGo ได้หรือไม่ก็ไม่มีข้อมูลเช่นกัน ใครที่อยากติดตามข้อมูล ให้ลองไปอ่านที่  Meamo.org  ต่อครับ

ช่วงหลังมานี้ HTC พูดถึงการอัพเดทสมาร์ทโฟนรุ่นเก่าเป็น Ice Cream Sandwich เป็นระยะๆ โดยรุ่นที่ชัวร์แล้วว่าอัพเกรดได้แน่ๆ ก็มี Sensation, Sensation 4G, Sensation XE รวมถึง Sensation XL ที่จะได้อัพเกรดก่อนรุ่นอื่นภายในช่วงเดือนมีนาคมนี้เลย ส่วนรุ่นที่จะได้อัพเกรดหลังจากชุดแรก (แต่ยังไม่ประกาศว่าเมื่อไหร่ก็มีดังนี้) HTC Rezound HTC Vivid HTC EVO 3D HTC EVO Design 4G HTC Incredible S HTC Desire S HTC Desire HD สำหรับรุ่นที่ทำตัวหนาไว้ก็ขอแสดงความยินดีด้วย เพราะเกือบจะไม่ได้อัพเกรดเป็น Ice Cream Sandwich แล้วนะเนี่ย

ช่วงงาน CES 2012 เมื่อเดือนมกราคม มีสมาร์ทโฟนที่เน้นกล้องออกมาพอสมควร หนึ่งในรุ่นที่ดังพอตัวคือ Polaroid SC1630 นั่นเอง และได้รับความสนใจจากมหาชนพอตัวเลยทีเดียว แน่นอนว่ายักษ์ใหญ่วงการนี้ในปัจจุบันอย่าง Samsung มีหรือจะพลาดโอกาสนี้ หลังจากมีคนตาดีไปเห็นว่า Samsung นั้นแอบไปจดทะเบียนชื่อ Samsung Galaxy Camera เอาไว้แล้วตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมกราคมนี่เอง ตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดว่าเครื่องที่ว่าจะออกมาหน้าตาแบบไหน แต่ดูท่าทางแล้วคงจะเป็นกล้องที่รันระบบปฏิบัติการ Android เหมือนกับรุ่นอื่นๆ ที่ออกมาก่อนหน้าก็เป็นได้

จากที่ได้เห็นสมาร์ทโฟนพยายามจะทำตัวเครื่องให้บางลง บางลงไปมาสองปี เข้าสู่ปีที่สามของตลาดสมาร์ทโฟนที่แข่งกันอยู่ในระดับต่ำกว่า 7 มม. นิดๆ อย่างที่ออกมา Droid RAZR 7.1 มม. หรือแบรนด์อินดี้หน่อยอย่าง Ascend P1 S ที่บางสุดเหวี่ยงเพียง 6.7 มม. ล่าสุดมีรายงานว่า Galaxy S III สมาร์ทโฟนตัวต่อไปในซีรีส์ S รุ่นท็อปของ Samsung จะยังสู้กับเทรนด์ความบางต่อไปอยู่ในระดับ 7 มม. เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีข้อมูลจากเว็บไซต์ฝรั่งเศส Frandroid.com ที่เผยว่าได้รับการเชิญเข้าร่วมอีเวนท์ปริศนาจากทาง Samsung ที่จะมีในวันที่  22 มีนาคมนี้ ซึ่งอาจจะเป็นวันเปิดตัว Galaxy S III ก็เป็นได้ ส่วนช่วงเวลาที่วางขายในตอนนี้ยังมีข้อมูลที่สับสนกันอยู่ระหว่าง Electronics Times News ที่อ้างว่าสมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวจะขายในเดือนพฤษภาคม กับบางที่บอกว่าเป็นเดือนเมษายนเลย ส่วนสเปคนั้นเดาตอนนี้ไปก็เท่านั้น แต่เดาได้เลยว่าต้องแรงหลุดโลกเหมือนทุกครั้งที่เปิดตัวแน่ๆ

ใกล้ถึงงาน MWC 2012 ที่จะจัดในช่วงปลายเดือนนี้เข้าไปทุกขณะ หลายแบรนด์ก็เริ่มขยับตัวส่งหมายเชิญนักข่าวไปโซนของตัวเองกันบ้างแล้ว และคราวนี้เป็นทีของ Sony Mobile ที่จะจัดงานแถลงในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ เวลา 18.00 น. (ตามเวลาบ้านเราจะเป็นตอนเที่ยงคืนพอดี) มาดูกันว่าในหมายเชิญมีอะไรน่าสนใจบ้าง จากหมายเชิญระบุชัดเจนว่าจะมีสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่โผล่ออกมาแน่นอนจากประโยค “Find out what’s news and what next” ซึ่งคาดว่าจะมีสามรุ่นนี้เปิดตัว ได้แก่ LT22i “Nypon” ที่คาดว่าจะมาในชื่อ Xperia P  และ ST25i “Kumquat” ที่น่าจะมาในชื่อ Xperia U สุดท้ายด้วยเจ้ารุ่นที่ยังไม่มีชื่อจริงอย่าง MT27i “Pepper” นั่นเอง ที่น่าสนใจอีกจุดคือ มุมซ้ายบนของหมายเชิญเน้นไปที่ Xperia มากกว่า และใช้คำว่า Sony Smartphone เมื่อมองดูทั้งใบแล้วพบว่าไม่มีโลโก้ของ Sony เลย … เป็นไปได้ว่าอาจจะมีการเปิดตัวโลโก้ใหม่ในงานอีกด้วย

สมเป็นประเทศแม่ของ Sony จริงๆ หลังจากที่เครือข่ายญี่ปุ่นอย่าง NTT DoCoMo ได้ประกาศให้จองเจ้าเครื่อง Xperia NX SO-02  (Xperia S เวอร์ชันญี่ปุ่น) แล้วตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป โดยจะได้รับเครื่องในวันที่ 24 ของเดือนเดียวกัน โดยหน้าตาของเจ้า Xperia NX SO-02 นี้เหมือนกันกับ Xperia S รุ่นปกติทุกประการ แต่แบรนด์ที่ตราบนเครื่องยังคงเป็น Sony Ericsson อยู่ และการที่พร้อมส่งมอบเครื่องในวันที่ 24 เดือนนี้นั่นหมายความว่าเครื่อง Xperia S นั้นเสร็จ และพร้อมขายนั่นเอง โดยสถานีถัดไปจะเป็นแถบยุโรป ส่วนเมืองไทยนั้นคาดกันว่าจะมาราวเดือนเมษายนจ้า อนึ่งเจ้า Xperia NX SO-02 นี่รองรับคลื่นความถี่ 3G เหมือนบ้านเรา ถ้าใครอยากใช้ก่อนใครก็ฝากคนไปหิ้วกลับมาได้นะ แต่ระวังเรื่องล็อกเครือข่ายล่ะ 

หลังจากได้ข่าวกันมานานเเล้ว Transformer Prime ที่มีปัญหาเรื่อง GPS, สัญญาณ Wi-FI ไม่ค่อยดีเเละปัญหาอื่นๆ เนื่องจากมาจากโครงสร้างของตัวเครื่องที่เป็นโลหะ ซึ่งน่าจะมีปัญหาพอสมควรสำหรับการตอบปัญหาต่างๆ สำหรับผู้ขาย ในที่สุดเว็บไซต์ Clove ก็ได้ประกาศหยุดจำหน่าย Asus Eee Pad Transformer Prime เเล้วโดยประกาศว่าเว็บไซต์ไม่อยากจำหน่ายของที่ไม่สามารถใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ เเละตัดสินใจที่จะหยุดขายเครื่องรุ่นนีึ้ไปอย่างไม่มีกำหนด เเละยกเลิกคำสั่งซื้อที่มีอยู่ในขณะนี้ด้วย ก่อนหน้านี้ทาง Asus ก็ได้ออกมาประกาศให้ สามารถคืนเครื่องได้ ถ้าไม่พอใจในเรื่องของประสิทธิภาพ GPS หรือเพิ่มประกันไปอีก 6 เดือนสำหรับผู้ที่ไม่คืนเครื่อง ส่วน Transformer Prime นั้นจะออก รุ่นปรับปรุงมาคือ TF700  ซึ่งจะเเก้ปัญหาเรื่องการจับสัญญาณ GPS เเละเพิ่มความละเอียดหน้าจอเป็น 1980 x 1200 เเทน ซึ่งน่าจะวางจำหน่ายในช่วงกลางปีนี้

ในขณะที่ผู้ใช้ยี่ห้ออื่นกำลังกังวลอยู่ว่าสมาร์ทโฟนรุ่นที่ตัวเองใช้อยู่ในตอนนี้ จะอัพเกรดเป็น Android 4.0 Ice Cream Sandwich ได้หรือไม่ เครื่องที่เป็น Pure Google อย่าง Galaxy Nexus ก็อัพเดทกันรัวๆ ล่าสุดมีเบาะแสว่า Ice Cream Sandwich รหัส 4.0.4 จ่อคิวเตรียมลง Galaxy Nexus แล้วจ้า อัพเดทที่ว่า ตอนนี้ยังมีเพียงแค่ผู้ใช้ Verizon Galaxy Nexus เท่านั้น (เป็นรุ่นที่ขายกับเครือข่ายในสหรัฐฯ) ซึ่งนอกจากเปลี่ยนเลขเวอร์ชันเป็น 4.0.4 แล้วยังเปลี่ยนบิลด์นัมเบอร์เป็น IMM30B อีกด้วย ส่วนความเปลี่ยนแปลงในรุ่นนี้ก็มีดังต่อไปนี้จ้า ประสิทธิภาพโดยรวมดีขึ้น แก้บั๊ก Android OS แสดงผลว่ากินแบตเตอรี่มากเกินกว่าความจริง เปลี่ยน 3G/4G ได้ดีขึ้น รับสัญญาณได้ดีขึ้น เพิ่ม Power Manu เข้าไป เหมือนกับ 4.0.3 ที่อัพเดทบน Nexus S ไปก่อนหน้า เปิดเครื่องไวขึ้น การปรับแสงอัตโนมัติเนียนขึ้น กดปุ่มถ่ายภาพค้างจะเป็นการโฟกัสภาพใหม่อีกครั้ง หมุนหน้าจอไวขึ้น แก้ปัญหามัลติทัชเพี้ยน ประสิทธิภาพเบราว์เซอร์ทำได้ดีขึ้น หน้า recent apps เปิดได้ไวขึ้นอีก ปรับอินเทอร์เฟซของแอพกล้องเล็กน้อย เพิ่มเสียง แก้บั๊กคีย์บ

ข้อมุลเพิ่มเติมของเจ้า Galaxy S II Plus มาอีกระลอกแล้ว หลังจากที่เมื่อวานก่อนเพิ่งมีข่าวหลุดมา และเมื่อวานมี ผลทดสอบระบุว่าใช้ขนาดหน้าจอเท่าเดิม เพิ่มเติมสเปคเป็น 1.5 GHz  … วันนี้มีภาพมาแล้ว แถมรัน Android 4.0 Ice Cream Sandwich เลยเสียด้วย จากภาพที่หลุดมา ใกล้เคียงกับข้อมูลของ Galaxy S II Plus ที่ออกมาก่อนหน้านี้มาก โดยจุดที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนคือแผงปุ่มเมนูด้านล่างที่เปลี่ยนให้เหมือนกับ Android 4.0 Ice Cream Sandwich มีสามปุ่มคือ back, menu และ recent apps อีกจุดที่น่าสนใจคือเวลา และสถานที่ซึ่งแสดงผลอยู่บนหน้าจอที่เป็นวันเดียวกับวันจัดงาน MWC 2012 นั่นหมายความว่าเจ้ารุ่นนี้อาจเปิดตัวในงาน MWC ก็เป็นได้ … ทิ้งไว้อีกนิดหน่อยว่าภาพนี้อาจเป็นของปลอมก็ได้ จนกว่าทาง Samsung จะยืนยันล่ะนะ

เพิ่งมีข่าวพูดถึงรุ่น อัพเดทของ Galaxy S II ในชื่อ Galaxy S II Plus  ไปได้ไม่นาน แค่ไม่กี่วันก็มีหลักฐานแรกออกมาให้เห็นแล้ว นั่นก็คือผลทดสอบจากอุปกรณ์ที่ระบุว่าเป็น Galaxy S II Plus นั่นเอง จากผลทดสอบของ An3DBenchXL ระบถึงตัวรุ่น (Device) ว่าเป็น “Galaxy S 2+” ซึ่งเข้าเค้าพอสมควร และจุดที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัดคือซีพียูที่มีสัญญาณนาฬิกาเพิ่มขึ้นเป็น 1.5 GHz แต่ไม่ระบุว่าเป็นชิปตัวไหน ส่วนสเปคอื่นๆ ที่เห็นในครั้งนี้ด้วยคือหน้าจอ ที่ยังคงความละเอียดเดิมที่ 800 x 480 พิกเซล (WVGA) และรันระบบปฏิบัติการ Android 2.3.4 Gingerbread ผลทดสอบนี้คาดว่าน่าจะมาจากเครื่องทดสอบภายในของ Samsung เอง และถ้ามีการเปลี่ยนแปลงไม่มากนัก เป็นไปได้ว่าอาจจะไม่ต้องรอนานถึงปลายปีอย่างข่าวก่อนหน้าก็ได้

เว็บไซต์ phonearena ได้รับหมายเชิญไปงานพรีเซนท์ตัวประมวลผลของ Samsung ในไลน์ของ Exynos ซึ่งในงานนั้นก็ได้มีการเเสดงถึงตัวต้นเเบบของ Exynos 5250 ที่ใช้สถาปัตยกรรม Cortex A15 ที่เเสดงผลบนหน้าจอขนาด 2560 x 1600 พิกเซล โดยตัวประมวลผลของ Samsung ในปีนี้จะถูกผลิตด้วยสถาปัตยกรรมเเบบ 32 นาโนเมตรทั้ง Exynos 5250 เเละ Exynos 4212 จากของเดิมอย่าง Exynos 4210 ที่ใฃ้สถาปัตยกรรมเเบบ 45 นาโนเมตร เเม้กระทั่ง NVIDIA Tegra 3 ที่เป็นตัวประมวลผล Quad Core ในตอนนี้ก็ผลิตบน 45 นาโนเมตจนเช่นกัน ทำให้ชิปมีพลังประมวลผลที่มากขึ้นเเละอัตราการกินพลังงานที่ดีกว่าเดิม ในงาน Samsung ยังทำการเปรียบเทียบอัตราการใช้พลังงานของ Exynos 4212 เเละ Exynos 4210 ซึ่งปรากฏว่า Exynos ตัวใหม่ ซีพียูนั้นกินไฟน้อยลงกว่าเดิมถึง 36% เเละจีพียูใช้พลังงานน้อยลง 46% ทั้งๆ ที่มีสัญญาณนาฬิกาสูงกว่า (1.2 GHz กับ 1.5GHz) ซึ่งทั้งสองตัวยังคงใช่สถาปัตยกรรมซีพียูเเบบ Cortex A9 เหมือนเดิม การที่กินไฟน้อยลงก็เนื่องมาจากเทคโนโลยีการผลิตที่เล็กลงนั่นเอง ถ้ามองคร่าวๆ เเล้วเราอาจจะมองประสิทธิภาพของ Exynos 4210 เเละ 4212 คงไม่ต่างกันมากนักเพร

แม้ว่าในตลาดตอนนี้ Samsung จะเพิ่งใช้ชิปของตัวเองอย่าง Samsung Exynos เพียงแค่รุ่นเดียวในรหัส Exynos 4210 ที้ใช้ใน Galaxy S II, Note, Tab 7 Plus และ Tab 7.7 แต่ก็มีข่าวคราวถึงรุ่นถัดๆ ไปอยู่เรื่อยๆ อย่าง Exynos 4212 ที่จะเริ่มใช้ในปีนี้ หรือ Exynos 5250 ที่จะเปลี่ยนไปใช้สถาปัตยกรรม Cortex-A15 ที่จะออกในปีหน้าอีกด้วย แต่ล่าสุดอาจจะต้องจำเพิ่มอีกรุ่น นั่นก็คือ Exynos 5450 ที่เพิ่งถูกพูดถึงเร็วๆ นี้ โดยจากที่มาระบุว่าเจ้าชิป SoC ตัวดังกล่าวใช้สถาปัตยกรรม Cortex-A15 แบบควอดคอร์ และจะใช้ชิปกราฟิกตัวล่าสุดที่ ARM เปิดตัวไม่นานอย่าง Mali-658 ซึ่งถูกคาดหมายกันว่าจะแรงมากๆ .. แต่เหนือสิ่งอื่นใด ออกมาซักตัวก่อนนะจ๊ะ

ในขณะที่ Samsung เพิ่งประกาศไปว่า จะไม่มีการเปิดตัว Galaxy S III สมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงของปีนี้ในงาน MWC 2012 ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์  แต่จะจัดเป็นอีเวนท์แยกแทน ก็มีข่าวลืออีกกระแสว่าจะมีรุ่นอัพเดทของ Galaxy S II และ Galaxy Note ปรากฏมาให้เห็นเหมือนอย่างที่เพิ่งเปิดตัว Galaxy S Advance มาอีกด้วย โดยเว็บไซต์ข่าวมือถือสัญชาติเนเธอร์แลนด์อย่าง Mobile Cowbow ระบุว่าในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จะมีสองรุ่นอัพเดทอย่าง Galaxy S II Plus และ Galaxy Note S ซึ่ง ในตอนนี้ ยังไม่มีรายละเอียดอะไรมากไปกว่าชื่อรุ่น ก่อนหน้านี้ Samsung เคยออกสมาร์ทโฟนในซีรีส์ Galaxy แล้วมีสร้อยตามท้ายด้วย Plus แค่รุ่นเดียวคือ Galaxy S Plus ที่มีการเปลียนแปลงชัดเจนสุดคือการเปลี่ยนซีพียูจาก Samsung Hummingbird ไปใช้ Qualcomm Snapdragon จึงมีโอกาสสูงที่ Galaxy S II Plus อาจเปลี่ยนไปใช้ซีพียูดูอัลคอร์จากค่าย Qualcomm แทนก็เป็นได้ ส่วน Galaxy Note S ถ้ามีตัวตนจริง อาจจะมาไวกว่าที่ข่าวบอก เพราะไม่นานนี้มีสมาร์ทโฟนของ Samsung ในรหัส GT-N8000 และ GT-N8010 ที่รหัสใกล้เคียงกับ Galaxy Note (GT-N7000) ออกมาให้เห็นจากหลักฐานของ